ฟิลเลอร์ใต้ตากับการดูแลผิวรอบดวงตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ริ้วรอย และถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและผิวรอบดวงตาสุขภาพดี การดูแลผิวรอบดวงตาควบคู่ไปด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ทำไมต้องดูแลผิวรอบดวงตาควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์?

– การดูแลผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปได้นานขึ้น ลดการเกิดรอยแผลเป็นและการอักเสบ

– ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ลดความหมองคล้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

– ผิวรอบดวงตาที่แข็งแรงจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้ากันได้ดีกับผิวมากขึ้น ทำให้มีผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน

– ผิวรอบดวงตาที่ดูเรียบเนียนและสดใสจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณ

– หากดูแลผิวใต้ตาหลังการฉีดฟิลเลอร์อาจช่วยเพิ่มระยะเวลาในการทำหัตถการได้ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

เคล็ดลับการดูแลผิวรอบดวงตาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

1. ผลิตภัณฑ์บำรุงที่จำเป็นและมีความเหมาะสม

– ครีมกันแดด: เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป

– เซรั่มบำรุงใต้ตา: เลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด, เปปไทด์, วิตามิน C และ E เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ

– ครีมบำรุงรอบดวงตา: เลือกครีมที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

2. วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์

– แตะเบาๆ อย่าถูหรือลากผิวแรงๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเคลื่อนตัวได้

– ทาจากหัวตาไปหางตา เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดอาการบวม

3. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวและลดอาการบวมใต้ตา

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดอาการบวม

5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลผิวรอบดวงตา ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการมีใต้ตาอิ่มฟูอย่างรวดเร็ว เห็นผลไว และมีปัญหาใต้ตาที่แก้ไขได้ยาก ซึ่งไม่สามารถจัดการได้ด้วยการบำรุงเท่านั้น แต่หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรมีการดูแลผิวอย่างถูกวิธีควบคู่ไปด้วยจะช่วยให้คุณมีผิวรอบดวงตาที่ดูอ่อนเยาว์ สดใส และสุขภาพดีในระยะยาว